Thursday, April 19, 2012

จำคุกสาว245ปี ตุ๋น49ราย คืนเงินอีก68ล้าน.


« เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 07:21:26 AM »


ศาลอาญาพิพากษาจำคุกสาวสุพรรณฯ 245 ปี ต้มตุ๋นชาวบ้าน ลวงเงินลงทุนส่งแรงงาน ฉ้อโกงประชาชนรวม 49 กระทง แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 122 ปี 6 เดือน และให้คืนเงินจำนวน 68,457,000 บาท ให้แก่ผู้เสียหาย...

ที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิมิลัญจ์ หรือภัทรภูมิ ภูมิชนน์ อายุ 42 ปี ชาว จ.สระบุรี และ น.ส.พาฝัน หรือ เบญญทิพย์ เดโชชัย อายุ 36 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 2 ตามลำดับในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน

ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 52 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 15 ส.ค. 45 - 17 มิ.ย. 47 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกับพวกอีกหลายคน ที่ศาลลงโทษแล้วได้บังอาจเจตนาทุจริตหลอกลวงประชาชน โดยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ชักชวนประชาชนให้นำเงินมาร่วมลงทุน ธุรกิจส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ และธุรกิจทำเครื่องเบญจรงค์ ส่งจำหน่ายต่างประเทศ โดยจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนกับจำเลยรวม 49 ราย รวมเป็นเงิน 68,457,000 บาท ทั้งที่ความจริงแล้ว จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งแรงงาน และส่งเครื่องเบญจรงค์จำหน่ายต่างประเทศแต่อย่างใด เหตุเกิดที่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกันจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตนก็ตกเป็นผู้เสียหายด้วย เนื่องจาก ถูกน้องชาย และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ หลอกให้นำเงินมาลงทุนหลายแสนบาท โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เสียหายเบิกความยืนยัน สอดคล้องกันว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ชักจูงมาให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ ส่วนจำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ามีส่วนรวมกระทำผิด พิพากษาว่า นางพาฝัน จำเลยที่ 2 กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนมาตรา 343 วรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา ประกอบมาตรา 83 , พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2547 มาตรา 4 วรรคแรก , 5 และ 12 เป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นบทหนักสุดจำคุกกระทง ละ 5 ปี จำนวน 49 กระทง รวม 245 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 122 ปี 6 เดือน แต่ตามกฎหมายอาญาให้จำคุกไว้จริงเพียง 20 ปี และให้คืนเงินจำนวน 68,457,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 คืนให้ผู้เสียหาย ส่วนนายสิมิลัญจ์ จำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ หลังฟังคำพิพากษานายสิมิสัญจ์ได้ขอประกันตัวออกไปทันที.

0 comments:

Post a Comment